บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนความรู้

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กระบาก
กระบาก (อังกฤษMesawa) เป็นไม้ยืนต้นสูง 5–25 เมตร เปลือกขรุขระสีเทา ตามกิ่งมีช่องอากาศเป็นจุดๆ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก รูปไข่แกมรูปหอกปลายใบแหลม ขอบใบหยักเว้าหรือหยักกลมๆ เรียบ โคนใบกลม มีต่อมขนอยู่ตรงมุมระหว่างเส้นกลางใบและเส้นใบ ออกดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ตั้งตรง กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นท่อเล็กๆ ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน เกสรเพศผู้มี 4 อัน ยาว 2 อัน สั้น 2 อัน ติดอยู่บนกลีบใกล้ปลายที่แยกออก ผลเป็นฝัก เมล็ดมีปีก ในประเทศไทยพบในป่าเบญจพรรณทางภาคตะวันตกเฉียงใต้

กระบาก
กระบาก
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร:Plantae
(unranked):Angiosperms
(unranked):Eudicots
(unranked):Rosids
อันดับ:Malvales
วงศ์:Dipterocarpaceae
สกุล:Anisoptera
สปีชีส์:A. costata
ชื่อวิทยาศาสตร์
Anisoptera costata
Korth.

ต้นไม้สัญลักษณ์

ต้นกระบากเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดโยธร

นิเวศวิทยา

ขึ้นอยู่ตามป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณชื้นที่มีการถ่ายเทน้ำได้ดีทั่วไป ที่สูงจากยกระดับน้ำทะเล 10 - 400 เมตร มีมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

ลักษณะเฉพาะ

  • ใบเดี่ยวเรียงสลับแผ่นใบรูป ขอบขนาน หรือรูปไข่กลับ ท้องใบมีขนสีน้ำตาลปนเหลือง กว้าง 3 - 8 เซนติเมตร ยาว 6 - 16 เซนติเมตร ปลายใบทู่มนกว้างหรือหยักเป็นติ่งสั้น ๆ โคนใบมน
  • ดอกเล็กสีขาวปนเหลืองอ่อนออกรวมกันเป็นช่อตามง่ามใบและ ปลายกิ่ง
  • ผลกลมผิวเรียบ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร มีปีกยาว 2 ปีก รูปไข่กลับ และปีกสั้น 3 ปีก
  • สภาพที่เหมาะสมในการปลูก

    สภาพดินทุกชนิด กลางแจ้ง ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง

    ชื่ออื่น

    กระบาก ตะบาก (ลำปาง), กระบากขาว (ชลบุรี, ชุมพร, ระนอง), กระบากโคก (ตรัง), กระบากช่อ กระบากด้าง กระบากดำ (ชุมพร), กระบากแดง (ชุมพร, ระนอง), ชอวาตาผ่อ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), บาก (ชุมพร), ประดิก (เขมร-สุรินทร์), พนอง (จันทบุรี, ตราด), หมีดังว่า (กะเหรี่ยง-ลำปาง)

    อ้างอิง

    กระบาก 108 พรรณไม้ไทย










    ที่มา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น